I style (บทความเก่า ก่อนยุค 3G )

  เรื่องเล่าก่อนเข้านอน...  I  style    สวัสดีค๊า.บ  เรื่องเล่าก่อนเข้านอนคืนนี้มันมีเรื่องที่สืบเนื่องมาจากเมื่อเช้าที่ผมนั่งจิบกาแฟ  คุยกับคุณเค เจ้าของเวปไซด์ skythailandshop.com  เรานั่งคุยกันหลายเรื่องค๊า..บ  ทั้งประเด็นของเรื่องระบบต่างๆ ที่มันกำลังเปลี่ยนไป คุยโม้กันสนุก จนได้มาฟังเรื่องเล่าเรื่องนึงที่ผมประทับใจก็คือ  เรื่องของ ไอน์สไตล์ ผู้ชายที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ แต่คืนนี้ผมจะขอเล่าในแบบฉบับ I style  (สไตล์ของผมนะครับ) เริ่มกันเลยนะครับกับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มีความสำคัญอย่างไร หลายคนอาจได้ยินชื่อแล้วต้องร้องอ๋อเลยนะครับ ไอน์สไตล์   เป็นชาวเยอรมันแต่เป็นลูกครึ่งชาวยิวครับ  สมัยเด็ก ๆ ถือว่าเป็นเด็กพิการทางการอ่านเขียน  คุณแม่ไอน์สไตล์ส่งเข้าเรียนทางด้านไวโอลิน  ตอนเด็กไอน์ไสตล์จะถูกคนอื่นมองข้ามเนื่องจากเป็นพวกเด็กพิเศษคือเรียนรู้ช้า  แต่เขาคืออัจฉริยะและคนสำคัญของโลกที่ทุกคนรู้จักด้วยวิธีคิดและทฤษฎีต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ของเขามากมาย         

   สมัยที่ไอน์สไตล์มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นยุคเดียวกับฮิตเลอร์ผู้มีอำนาจ หรือพระเจ้าของชาวเยอรมัน  ฮิตเลอร์ต้องการเข่นฆ่าชาวยิวและต้องการให้เยอรมันเป็นมหาอำนาจของโลกนี้  ใครที่มีเชื้อสายยิวในเยอรมันก็จะถูกฆ่าตาย รวมทั้ง  ไอน์สไตล์ ด้วย แต่ ไอน์สไตล์ มีความพิเศษตรงที่ไอน์สไตล์เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ที่ค้นพบทฤษฎีของการแปรสภาพสารมวลจิ๋วให้เป็นพลังงานขนาดใหญ่ หรือ สูตรที่ว่า  E = MC²   ซึ่งภายหลังถูกนำมาใช้กับการผลิตนิวเคลียร์  ไอน์สไตล์ตัดสินใจขอลี้ภัยและโอนสัญชาติเป็นอเมริกา เพราะกลัวถูกฆ่าตายในเยอรมัน  ในตอนนั้นญี่ปุ่นได้เข้าร่วมสงครามและเป็นพันธมิตรกับเยอรมันเพราะฮิตเลอร์สัญญาจะมอบอำนาจการครอบครองบางส่วนให้ญี่ปุ่นถ้าเยอรมันได้เป็นเจ้าโลก และศัตรูหลัก ๆที่ ฮิตเลอร์  ต้องการล้มก็คือ อเมริกา อังกฤษ รัสเซีย กองทัพญี่ปุ่นได้ประกาศสงครามกับสหรัฐในศึกที่มีชื่อว่าเพิร์ลฮาเบิร์ล ภายใต้การนำของอดอฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งตอนนั้นสหรัฐถูกโจมตีและสูญเสียกองกำลังไปมากมาย ขณะนั้นเองบุคคลสำคัญผู้หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อสหรัฐและมีส่วนทำให้สหรัฐเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ทางการรบมาถึงทุกวันนี้ก็คือคืออัลเบิร์ต ไอน์สไตน์      

    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์  คือผู้ที่สหรัฐให้ความสำคัญเพราะประเทศสหรัฐ  ได้นำเอาทฤษฏีของอัลเบิร์ต  เกี่ยวกับการแปรสภาพมวลสารขนาดเล็กมาเป็นพลังงานขนาดใหญ่  ซึ่งตอนนั้นเยอรมันก็คิดเรื่องอาวุธชีวภาพที่ร้ายแรงหมายจะทำลายศัตรู  แต่สหรัฐได้นำมาใช้เสียก่อนจากทฤษฎีของไอน์สไตล์  และได้ทดลองใช้อาวุธนี้โจมตีกับญี่ปุ่น  ซึ่งนิวเคลียร์ลูกแรกคือ  little  boy  ที่ทำจากแร่  ยูเรเนี่ยม  ถูกส่งไปถล่มเมือง  ฮิโรชิม่า  มีคนตายร่วม 140,000 คน  และลูกที่สองคือ  fat man ทำจากแร่พลูโตเนียม  ถล่มที่เมือง  นางาซากิ  คนตายไปประมาณ  80,000  คน  และทั้งสองเมืองนี้รวมกันมีผู้ที่ทยอยตายตามกันมาอีกรวมกว่า 4 แสนคน  ซึ่งเดิมทีสหรัฐต้องการจะยิงไปตกที่กลางทะเลของญี่ปุ่นเพื่อข่มขู่  แต่ผู้มีอำนาจของสหรัฐในขณะนั้นหาลือกัน  และได้สรุปว่า  จะไม่ให้มีชาติใดสามารถขึ้นมาต่อกรกับสหรัฐได้  จึงยิงนิวเคลียร์ไปถล่มญี่ปุ่นเพื่อเป็นการทำลายและแสดงอำนาจทางการรบต่อนานาประเทศด้วย  แต่ในขณะนั้นก่อนสงครามของฮิตเลอร์ สหรัฐก็พึ่งทำสงครามกับโซเวียตหรือรัสเซียมาไม่นาน  พอเกิดสงครามนาซีขึ้น  ทั้งสหรัฐและโซเวียตบวกกับอังกฤษและพันธมิตรหลาย ๆ ชาติต้องร่วมมือกันขับไล่กองกำลังของนาซี 

   

  ต่อมาภายหลัง  ไอน์สไตล์    ไม่เห็นด้วยต่อการเข่นฆ่าด้วยนิวเคลียร์  จึงเป็นผู้ที่มีบทบาททำให้เกิดมีองค์กรสหประชาชาติหรือ UN ขึ้นมา  เพื่อต่อต้านการใช้อาวุธสงครามนิวเคลียร์  และในที่สุดอาวุธนิวเคลียร์ก็ทำให้สหรัฐยิ่งใหญ่  และโค่นอำนาจของนาซีฮิตเลอร์ลงได้คร๊า..บ    เป็นเรื่องย่อ ๆ ที่ผมขอเล่าให้ฟังในคืนนี้  ใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ลองหาข้อมูลกันดูนะครับ  ขอขอบคุณข้อมูลบนโต๊ะจิบกาแฟยามเช้าของคุณเค  สกายไทยแลนด์ค๊า..บ    เรื่องนี้คุณเคอ่านหนังสือและศึกษามานานจนสรุปให้ฟังสั้น ๆ   ใครอยากรู้อย่างละเอียดต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมนะค๊า..บ

 

สนับสนุนโดย  :