รองเท้าเซฟตี้ เลือกอย่างไร ให้ถูกใจ แล้วก็ปลอดภัยได้มาตรฐาน
ขณะที่ผ่านมาในบ้านพวกเรา ระยะนี้เริ่มให้ความใส่ใจ แท้จริงจัง จนกระทั่งเป็นมาตรการ เพื่อสร้างมาตรฐาน ยกฐานะความปลอดภัยในการดำเนินการ ไม่ว่าจะวงการ อุตสาหกรรม การผลิต การก่อสร้าง การทำงานในโรงงาน จนถึง นักเรียน ผู้เรียนอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้ ดำเนินงานที่มีความเสียง ช่วยลดความสูญเสีย จากอุบัติเหตุได้เป็นอันมาก และก็วัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยง ที่สำคัญ นั้นก็คือ รองเท้าเซฟตี้ หรือ รองเท้าหัวเหล็ก ที่หลายๆคนเรียกชินปาก
ไม่ใช่เพียงแค่ ผู้ที่ทำงานที่มีความเสียง ผู้คนทั่วไปถึงแม้ว่าจะ แม่บ้านที่ไปเดิน ซื้อของ บางคราวก็จำต้องพบกับอุบัติเหตุ ที่ไม่คาดคิด เหยียบไม้ลูกชิ้นหัวแหลม ทะลุรองเท้า มาโดนเท้า เป็นแผล ซวยสุดๆแผลติดเชื้อโรคเนื่องจากไม้ลูกชิ้น แช่อยู่ใน น้ำคร่ำ สกปรกไปด้วยเชื้อโรค เห็นไหมครับว่า ความเสี่ยงและอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่ง ถึงแม้เพียงแค่ การเดินไปจ่ายกับข้าวซื้อกับข้าวที่กล่าวขึ้นมา คุณคงจะคิดว่าจะให้ แม่บ้าน หรือ หญิง ใส่ รองเท้าเซฟตี้ ใหญ่ๆหนักๆเดินไปจ่ายกับข้าว นางอาจไม่ใส่หรอก …. ก็จริงนะครับ
แต่เดียวนี้ เขามี รองเท้าเซฟตี้ ที่ออกแบบดีมาให้ราวกับรองเท้าแฟชั่น น้ำหนักเบา แถม งามอีกต่างหาก รับประกันได้ว่า ไม้เสียบลูกชิ้น ไม่ระคายผิวเท้าแน่นอน ต่อให้ ตะปู เหล็กแหลม ก็ช่วยทำให้เท้า ของคุณผู้หญิง ไม่มีอันตรายได้ด้วย รองเท้าเซฟตี้ผู้หญิง
บอกได้เลยว่า รองเท้าแฟชั่น ใครๆก็มีส่วมใสกันทั้งนั้น ตั้งแต่ ราคาไม่กี่บาท จนของมีแบรนด์ดังราคา หลายพัน บาท แต่ไม่ว่าแบรนด์ไหน ถ้าเกิดเจอตะปูเข้าไป มีทะลุ คนใส่ ร้องจ๊าก แน่ๆ แม้ว่าชาติบ้านเมืองเราจะพัฒนา ถนนให้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่พบ เส้นทางที่มีความเสี่ยง อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เกิดเรื่องที่ดีที่พวกเราได้เกิดมาในสมัยที่ เทคโนโลยี่ ได้ผลิต สิ่งใหม่ใหม่ๆรวมถึง รองเท้าเซฟตี้แฟชั่น ด้วยเทคโนโลยี่การสร้างยุคใหม่ กับ ชีวิตติด แฟชั่นหมายถึงการออกแบบ รองเท้าเซฟตี้ ที่ใส่แล้วให้ผู้ใส่มีความรู้สึก เหมือนใส่ รองเท้าแฟชั่น มองไม่เชย จนคนถามว่า ใส่รองเท้าไปทำเหมืองหรอ หรือ มีความคิดว่า ลดเกรดตัวเอง ไปเป็น คนงานก่อสร้าง ถึงแม้ว่าจะใส่แล้วไม่เป็นอันตราย แม้กระนั้นภาพที่บุคคลอื่นดูแล้วมันทำให้รู้สึก ลดความแน่ใจ สำหรับเพื่อการดำเนินชีวิต ก็ไม่ใส่ดีกว่า
แต่ สำหรับ รองเท้าเซฟตี้แฟชั่น แบบใหม่ๆนั้น มีการวางแบบรูปทรง ทีจะเรียกว่าอย่างไรดี ง่ายๆว่า โก้เก๋ กว่าสมัยเก่ามาก และมีให้เลือก หลายแบบหลากสี มองภายนอกแล้ว ไม่มีทางรู้เลยว่า มันเป็นรองเท้าเซฟตี้ รวมทั้ง ยังคงคุณสมบัติ ทำหน้าที่ คุ้มครองป้องกันเท้าของคุณได้ทุกหนทุกแห่ง ที่คุณใส่เดินไป พร้อมกับมัน
สุดยอดเทคโนโลยี รองเท้าเซฟตี้ ปัจจุบันยิ่งไปกว่านั้น รุ่นที่พิเศษ เหนือ รุ่น รองเท้าเซฟตี้แฟชั่น ที่เป็นพื้นเหล็ก หัวเหล็ก คือ รุ่นที่ ใช้วัสดุ ที่มีความเบา แต่ให้คุณสมบัติ ยืดหยุน แล้วก็ คุ้มครองแรงกระแทก และ การเจาะทะลุ ด้วยวัสดุ เคฟล่า
จะเห็นได้ว่า เมื่อนำวัสดุที่มี การปกป้องคุ้มครองแรงกระแทก และก็ คุ้มครองปกป้องการเจาะทะลุ ด้วยเทคโนโลยี เคฟล่า มาเป็นองค์ประกอบ กับรูปแบบ รองเท้าแฟชั่น รองเท้าเซฟตี้ ก็เลยกลายเป็น รองเท้าเซฟตี้แฟชั่น ที่ให้การป้องกันเท้าได้อย่างเต็มคุณภาพ และด้วยความเบาสุดๆยืดหยุนบิดไปๆมาๆได้ของ รองเท้า ทำให้ ส่วมสวมใส่สบาย ไม่หนักเท้า ใส่ไปได้ทุกครั้ง ทุกวัน เข้ากันได้ทั้งยังใส่ไปปฏิบัติงาน ท่องเที่ยว
รองเท้าเซฟตี้ ทรงมาตรฐาน
สำหรับในการทำงาน ที่มีความเสี่ยง หรือ มีมาตรฐาน ที่โรงงาน กำหนดให้ต้องใส่ รองเท้าเซฟตี้ ไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้าง งานในการผลิต และอื่นๆโดยมากแล้ว มาตรการของโรงงาน จะกำหนดให้ พนักงานทุกคน จำเป็นต้องใส่ รองเท้าเซฟตี้ สำหรับในการปฏิบัติงาน 100% เพราะเหตุว่าเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติ และไม่มีการผ่อนผัน ให้ใส่ รองเท้าเซฟตี้แฟชั่นได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงจึงควรหา รองเท้า ที่มองดูแล้วให้รู้เลยว่าเป็น รองเท้าเซฟตี้
พนักงานจำนวนมากที่ มาจากบริษัท จัดหางาน ( ซับคอนแทรค) ทางบริษัทก็จะจัดหารองเท้าให้พนักงาน ใส่และก็หักจากค่าตอบแทนรายเดือน เดือนแรกจึงได้รองเท้ามาใส่ก่อน ส่วนที่ไม่ใช่ก็ต้องหาซื้อเอาเอง ก่อนหน้านั้น การจะลงทุนซื้อ รองเท้าเซฟตี้ ดีๆสักคู่ ราคาก็แพง เป็นหลัก พันขึ้นไป หลายคน ก็เลยเลือก ซื้อ รองเท้าเซฟตี้ราคาถูก ที่มีรูปทรงเหมือนรองเท้าเซฟตี้ แต่ว่าไม่มีหัวเหล็กพื้นเหล็ก เพื่อพอให้ผ่านกฏเข้าไปปฏิบัติงานได้
ซึ่งอันตรายมากสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานจริง แต่ว่าด้วยความจำเป็นด้านการเงิน เลยจำเป็นต้องทำไปอย่างนั้น ดีขึ้นมาหน่อยก็ หาซื้อ รองเท้าเซฟตี้ มือสอง ซึ่งมีราคา 100 กว่าบาท จนกระทั่ง 500 บาท แล้วแต่สภาพและก็แบรนด์
รองเท้าเซฟตี้ ทรงมาตรฐาน แบ่ง ออกง่ายๆด้วย แบบรองเท้าเซฟตี้หุ้มข้อ รวมทั้ง แบบธรรมดา
ราคาขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เอามาประกอบรองเท้า บางรุ่นมีแค่หัวเหล็ก ไม่มีพื้นเหล็ก (ชี้แนะซื้อทั้งที หัวเหล็กพื้นเหล็กเลย ดีกว่า)
ส่วนประกอบสำคัญ ของ รองเท้าเซฟตี้ หนังแท้ หนังแท้ที่ได้มาจากสัตว์ อาทิเช่น หนังโค หนังควาย ซึ่งเป็นที่นิยมเอามาทำรองเท้า หรือ ของใช้ อื่นๆด้วยเหตุว่า ราคาถูกมากเกินความจำเป็นถ้าเกิดเทียบกับ หนังกระรอก หนังจรเข้ หนังเสือ และ หนังสิงโต (อันนี้ขำๆนะ ครับ )
หนังแท้มีคงทนสูงใช้ได้นานตามคุณลักษณะที่รู้กันอยู่แล้ว ทำให้ราคาแพงสูงเหมาะสมกับผู้ที่มีงบประมาณ และอยากได้รองเท้าที่มีความทนทาน สวยสดงดงาม แบรนด์ดังๆมีขายทั่วๆไป
หนังเทียม หนังเทียมเป็น หนังสังเคราะห์ ขึ้นมา ผ่านกระบวนการทำพื้นผิวเอาอย่างหนัง โดยอุปกรณ์ที่นิยมนำมาใช้ทำ รองเท้าเซฟตี้ แบ่งตามวัสดุที่ทำเป็นดังนี้
1.หนัง Microfiberเป็นหนังที่ผลิตจากไฟเบอร์ขนาดเล็กซึ่งทำมาจากใยสังเคราะห์ต่างๆซึ่งโดยปกติจะเป็นโพลีเอสเตอร์แล้วก็ไนลอน หรือ โพลียูริเทน (Microfiber PU) สามารถทำเป็นหนังกลับได้ สามารถปั๊มลาย เย็บแล้วก็ตัดง่าย ทำให้รองเท้านิรภัยที่ทำจาก Microfiber ตะเข็บจะดูเป็นระเบียบ ให้ความรู้สึกราวกับหนังแท้ นอกนั้นยังมีน้ำหนักเบา รวมทั้งอายุการใช้งานนาน ก็เลยทำให้เป็นที่นิยมมากมายในตอนนี้ แต่มีข้อเสียเป็นไม่ทนไฟได้เสมือนหนังแท้ ไม่เหมาะสมกับหน้างานที่เกิดประกายไฟ
2.หนัง PVCสร้างขึ้นมาจาก Poly Vinyl Chloride (PVC) ราคาหนังถูกที่สุด ในบรรดาหนังทั้งปวง พื้นผิวสัมผัสแข็ง ไม่นุ่ม ทนน้ำ ไม่ทนความร้อน นิยมใช้ในรองเท้านิรภัยราคาไม่แพงๆสำหรับงานก่อสร้างทัวไป
3.หนัง PUเป็นหนังเทียมที่มีคุณสมบัติ แล้วก็การสัมผัสเสมือนหนังแท้ สร้างมาจาก Polyurethane (PU) ซึ่งผิวจะนุ่มกว่า PVC ส่วน คงทนถาวรจะขึ้นอยู่กับ เกรดของ PU ที่ใช้
วัสดุที่ประยุกต์ใช้เพื่อปกป้องการกระทบและก็เจาะทะลุนอกเหนือจากการใช้อุปกรณ์ ส่วนของหนังแท้ หนังเทียม ที่นำมาประกอบรองเท้าเซฟตี้แล้ว สาระสำคัญที่จะจำเป็นคือ อุปกรณ์เพื่อการป้องกัน การกระแทก ที่หัวรองเท้า แล้วก็ กัน การแทงทะลุ ที่ พื้นรองเท้าเซฟตี้ ส่วนประกอบโดยมาก ที่นิยมใช้กันเป็นเหล็ก ใช้อีกทั้งส่วน กันกระเทือนทั้งที่ หัว รองเท้าเซฟตี้ และก็ แผ่นเหล็ก ที่พื้น รองเท้าเซฟตี้
แต่ว่าเพราะก่อนหน้านี้ รองเท้าเซฟตี้รุ่นเก่า เมื่อนำมาประกอบกับ ส่วนต่างๆของ รองเท้าแล้ว ทำให้ รองเท้าเซฟตี้ รุ่นเก่านั้น มีน้ำหนักค่อนข้างจะ มากมาย และเทคโนโลยี ยุคเก่า ยังไม่สามารถที่จะ คำนวน มาตรฐาน แรงชนได้ ก็เลยมีความเชื่อที่ว่า ยิ่งหนักยิ่งดี หมายความว่า หัวเหล็กหนา พื้นเหล็กหนา เอาไปใช้แล้ว รู้สึกปลอดภัย แม้กระนั้นสิ่งที่ตามมาเป็นเมื่อใช้รองเท้าเซฟตี้ แบบนั้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆด้วยนำหนัก และก็การออกแบบ ทำให้ ขามีลักษณะ ปวดเมื่อยล้้า ปวดขา และก็บางรายสงผลถึง กระดูกข้อต่อเข่า
ด้วยเทคโนโลยี การสร้าง รองเท้าเซฟตี้ สมัยใหม่ ปัญหากลุ่มนี้ ลดลง เนื่องจากว่าทุกขั้นตอนการผลิต สามารถ กำหนดมาตรฐาน ในองค์ประกอบต่างๆจึงทำให้ รองเท้าเซฟตี้ แบบใหม่ๆดียิ่งขึ้นเรื่อยๆและ ยังสร้างทางเลือก ให้กับผู้ที่อยาก รองเท้าเซฟตี้ ที่เบาขึ้น โดย นำสิ่งของ ที่เป็นเหล็ก เอามาผสม กับอุปกรณ์อื่นๆเช่น อลูมิเนียม เพื่อให้มีความเบามากขึ้น แต่ว่า รองรับแรงกระแทกได้ตามมาตรฐาน
รวมทั้งในขณะนี้ ความเจริญก้าวหน้า ปัจจุบัน ที่ทำให้ รองเท้าเซฟตี้ มีความเบามากที่สุด รวมทั้งมีความทนทานตามมาตรฐาน เป็นนำ เอาเทคโนโลยี เคฟล่า มาใช้กับ หัวรองเท้าแล้วก็พื้นรองเท้าเซฟตี้ ก็เลยทำให้ รองเท้ามีความเบาและยืดหยุ่น เบามากขนาดที่ว่า เหมือนใส่รองเท้าธรรมดาทั่วไปเลยทีเดียว
แม้กระนั้นก็จะต้องแรกมาด้วย ราคาที่ตามประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ใช้
วัสดุที่ใช้สำหรับทำพื้น รองเท้าเซฟตี้
- รองเท้าเซฟตี้ พื้นยาง กรรมวิธีการผลิตเป็นการนำพื้นรองเท้าแล้วก็ตัวรองเท้า
- รองเท้าเซฟตี้พื้น TPR เป็นพื้นที่ใช้ทำรองเท้าผ้าใบเซฟตี้
- รองเท้าเซฟตี้พื้นพียู เป็นการฉีดโพลียูรีเทนขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรองเท้าเซฟตี้ ทำให้มีความแข็งแรงมากยิ่งกว่า ซึ่งมีทั้งพียูสูตรปกติ กับพียูสูตรเข้มข้น ซึ่งได้รับความนิยมที่สุดด้วยเหตุว่าน้ำหนักเบาและกันลื่นได้ดี
เลือก รองเท้าเซฟตี้ ที่ตามมาตรฐาน เพื่อให้มีความปลอดภัย
มาตรฐาน รองเท้าเซฟตี้ ถูกกำหนดให้มีอยู่สองแบบอย่างร่วมกัน คือ
- มาตรฐานรองเท้านิรภัยยุโรป EN345
- มาตรฐานรองเท้านิรภัย ANSIZ41.1
มาตรฐานรองเท้านิรภัยยุโรป EN345หัวรองเท้าเซฟตี้ จะต้องมีการคุ้มครองป้องกันแรงกระแทกได้สูงถึง 200 จูล
ผ่านการทดสอบของแรงการบีบอัดได้
รอบๆส่วนบนของรองเท้านั้นจะต้องมีความหนาที่พอเพียงรวมทั้งสามารถต้านของการขัดสีได้ในระดับที่มาตรฐานกำหนดไว้
พื้นรองเท้าต้องสามารถที่จะทนต่อความร้อนได้ดี ยับยั้งการขัดสี แล้วก็สามารถรับแรงชนได้ดีนอกเหนือจากนั้นยังจะต้องคงทนต่อสารเคมีหรือน้ำมันบางจำพวกที่มีกฎระเบียบตัวย่อตามมาตรฐาน EN345
ดังนี้มาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ EN345 ยังมีข้อบัญญัติให้ผู้ผลิตกำหนดตัวย่อเพื่อบอกคุณสมบัติของรองเท้าเอาไว้ดังนี้
SB (Safety Basic) สำหรับรองเท้ามีคุณลักษณะตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐาน
SBP (SB with pierce resistant midsole) สำหรับรองเท้ามีคุณลักษณะตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานพร้อมพื้นยับยั้งการแทงทะลุ
S1 (SB with anti-static sole and cushioned heel area) สำหรับรองเท้ามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานพร้อมพื้นและบริเวณส้นต่อต้านไฟฟ้าสถิต
S1P (S1 with pierce resistant midsole) สำหรับรองเท้ามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานพร้อมพื้นแล้วก็รอบๆส้นยับยั้งไฟฟ้าสถิต และก็ พื้นขัดขวางการแทงทะลุ
S2 (S1 with water resistant upper) สำหรับรองเท้ามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานพร้อมพื้นและบริเวณส้นยับยั้งไฟฟ้าสถิต แล้วก็ ส่วนบนยับยั้งน้ำ
S3 (S2 with pierce resistant midsole) สำหรับรองเท้าที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานพร้อมพื้นและรอบๆส้นยับยั้งไฟฟ้าสถิต ส่วนบนต้านทานน้ำ และก็ พื้นต้านทาน ทานการแทงทะลุ
มาตรฐานรองเท้านิรภัย ANSIZ41.1
หัวของรองเท้าต้องทนต่อการถูกตกกระแทก หรือแรงบีบได้
รองเท้าต้องมีแผ่นคุ้มครองกระดูกเท้าส่วนบน เพื่อปกป้องความเสี่ยงที่กระดูกเท้าด้านบนจะแตกหรือหักจากแรงตกกระแทกได้
รองเท้าจำเป็นจะต้องสามารถกระจายไฟฟ้าสถิตได้ โดยไม่เพียงแค่จะต้องปกป้องการถูกไฟดูดเท่านั้น แม้กระนั้นรองเท้ายังจะต้องเป็นตัวนำไฟฟ้าให้กระจัดกระจายลงสู่พื้นได้ด้วย
รองเท้าตัวนำ ต้องมีคุณลักษณะปล่อยไฟฟ้าสถิตจากร่างกายลงสู่พื้นได้ดี เพื่อป้องการไฟฟ้าสถิตสะสม และอาจทำให้เป็นอันตรายได้เมื่อเข้าไปทำงานในจุดที่มีวัตถุหรือสารระเบิด
รองเท้าต้องมีคงทนถาวรเพียงพอไม่ให้มีการถูกเจาะทะลุ สาระสำคัญของรองเท้าเซฟตี้ตามมาตรฐานข้อนี้อยู่ที่พื้นรองเท้า
รองเท้ากระจายไฟฟ้าสถิต ซึ่งเป็นมาตรฐานที่นำคุณสมบุติหัวข้อการกระจายไฟฟ้าสถิตออกจากตัวผู้}สวม ในเวลาเดียวกันก็ยังสามารถยับยั้งกระแสไฟฟ้าไม่ให้ไฟดูดได้
ทั้งหมดนี้หมายถึงความสำคัญหลักๆสำหรับในการเลือกซื้อ รองเท้าเซฟตี้ ให้ชอบใจและก็ตามมาตรฐาน ก็อยู่ที่คุณแล้วว่า ต้องการรองเท้าเซฟตี้ แบบไหน ก็ขอให้ได้รองเท้าที่ถูกอกถูกใจ กันทุกคนครับ
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://xn--12cfiq4chd9d6af8huceb5b7dwfc3og.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น