กาแฟ

กาแฟ
รับสอนชงกาแฟ

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

Story ที่ 6 ยุค 3G : Gen me มนุษย์ยุคใหม่

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
  สวัสดีค๊า..บ    คืนนี้เรื่องเล่าก่อนเข้านอน    ผู้เขียนขอนำเสนอเรื่องราวของเด็กไทยในยุคใหม่  Generation ใหม่  หรือที่เราเรียกติดปากกันว่ายุค  Gen  me  กับเด็กรุ่นใหม่ที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและความมั่นใจ ยุคของความคิดที่แตกต่าง ที่พวกเขาต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับความคิดบางอย่างที่ผู้ใหญ่จะต้องให้คำตอบให้ได้  และหากคำตอบนั้นไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง แต่เป็นเพราะผู้ใหญ่เองต้องทำให้เด็ก ๆ เชื่อฟังในสิ่งที่พูดให้ได้    จากประสบการณ์ของผู้ใหญ่เอง    แล้วเมื่อต้องเจอกับเด็กรุ่นใหม่ในยุค Gen  me   ซึ่งพวกเขามีความเห็นที่ต่างออกไป    จะเป็นเช่นไร  ถ้าคุณจะพูดอะไรแล้วเขาไม่ฟังคุณ  ความเป็นประชาธิปไตยที่คนรุ่นใหม่ต้องการคือความเสมอภาคเท่าเทียมกันในความเป็นเสรีชน ไม่มีคำว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วพวกเขาจะต้องฟังคุณ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีเพียง  พวกเขาจะเคารพในบุคคลที่ควรเคารพเท่านั้น  ไม่จำเป็นต้องเคารพคนทุกคน เป็นประเด็นที่หลายคนยอมรับไม่ได้ แต่มันกำลังเกิดขึ้นจริง ๆ  ผู้ปกครองบางคนจะมองว่าทำไมลูกหลานตัวเองก้าวร้าว ทำไมพวกเขาจึงไม่ฟังใครเลย  เรื่องเล่าก่อนเข้านอนคืนนี้มีคำตอบ

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
          เริ่มต้นกันตั้งแต่ทรงผมผู้ชายและการแต่งกายของนักศึกษาหญิง  เมื่อไม่นานได้มีประเด็นทางสังคมที่ได้ถกกันขึ้นมา  เรื่องการปฏิรูปทางการศึกษา  ได้มีทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา  ทั้งเห็นด้วย  และไม่เห็นด้วย  เกี่ยวกับยูนิฟอร์มเครื่องแต่งกาย  ต่างคนต่างมีเหตุผลกันไปต่าง ๆ นา  จนกระทรวงการศึกษาร้อนวูบ ว่าจะเกิดการปฏิรูปในระบอบการศึกษาเสียใหม่หรือไม่อย่างไร   เป็นสถิติที่แปลกจากการทุ่มเทงบประมาณทางด้านการศึกษาของไทยซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ทุ่มเททางด้านการศึกษามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก  แต่ได้มีการวัดความฉลาด  ไอคิวแล้ว  เด็กไทยของเราอยู่ในอันดับท้ายๆของเอเชีย  แล้วมันเกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่เด็ก ๆ ในยุค Gen me ที่เรียกร้องหรือไม่  ว่าถ้ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  กับการให้เด็กมีอิสรภาพทางความคิด  ไม่จำกัดเสรีภาพของการแต่งกาย  แต่อยู่ที่กาละเทศะ การกระทำ  และความคิด  จะทำให้เด็กของเราพัฒนา  เป็นประเด็นที่ร้อนระอุทางสังคมผสมกับการเมือง  รากฐานในการวางประชาธิปไตยของคนยุคก่อน  ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่มองว่าทำให้ขาดการพัฒนาเพราะมีรากฐานที่ไม่ดีตั้งแต่แรก  ก่อนที่จะเขียนต่อ  ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้ลองดูคลิปนี้ก่อนนะครับ...ไม่งั้นจะอ่านไม่สนุก...



     ครับมาว่ากันต่อ  ถ้าได้ดูคลิปนี้แล้ว  หลายคนที่อยู่ในเจนเนอเรชั่นใหม่ส่วนหนึ่งอาจเห็นด้วยอีกส่วนอาจไม่เห็นด้วย  แต่ผู้ใหญ่ที่ไม่เปิดกว้างบางคนอาจจะรับไม่ได้   แต่สิ่งเรานี้เป็นเพียงทัศนะและความคิดเห็นที่ต่างกันเท่านั้นเอง  การนำมาใช้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความเห็นสมควรของคนในหมู่มาก  ซึ่งต้องเคารพในประชามติของความเห็นส่วนรวมเป็นที่ตั้ง   แต่อีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนลืมนึกถึงกันสำหรับเด็กในเจนเนอเรชั่นใหม่  เรื่องของการท้องก่อนแต่ง  หรือ  เรียนไปมีสามีไป  เด็กผู้หญิงในยุคใหม่ต้องทำหน้าที่ทั้งสองอย่าง  ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาพูดประนามหรือส่อร้ายในทางไม่ดีนะค้า.บ  แต่คิดว่าส่วนหนึ่งคงต้องมีเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้  เพราะโลกในยุคใหม่ก้าวเข้าสู่ความเป็นเสรีนิยม  พ่อแม่ผู้ปกครองถ้าจะวางแผนค่าใช้จ่ายทางการเรียนให้ลูกคงไม่พอ  คงต้องวางแผนไปถึงค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าเลี้ยงดูเด็กน้อยผู้เป็นบุตรของลูกด้วย      ถ้าหากมีกรณีสิ่งที่มิได้คาดฝันเกิดขึ้นกับลูกหลานเรา  นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการที่นักศึกษาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเครื่องแบบ  ลองไปติดตามกันดูครับ  ยุคนี้มันต้องคิดอะไรรอบด้านจริง ๆ ครับ        ชมคลิปนี้ครับ


 
      ครับ  เป็นอย่างไรกันบ้าง  เป็นประเด็นที่น่าสนใจใช่มั้ยคับ  บางคนก็ไม่มีเวลาที่จะได้คิดได้ใส่ใจกับเรื่องแบบนี้  ผู้เขียนเลยนำมาให้ดูสำหรับคนที่ไม่มีเวลาหรือพลาดโอกาสเปิดมุมมองของตัวเอง  สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนคิดเกี่ยวกับชุดนักศึกษา  ถ้ามองในมุมของยุคที่ต้องเร่งรีบในปัจจุบัน  ที่ต้องรีบเดินทาง  การเดินทางที่ต้องนั่งวินมอเตอร์ไซด์เพื่อไปเรียน  ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่นักศึกษาหญิงคงจะไม่ถนัดในการก้าวขาถ้าหากแต่งกายให้ถูกระเบียบ  ตามกฏของมหาวิทยาลัยจริงๆ  แต่อีกประเด็นก็คือการใส่ยูนิฟอร์มผิดระเบียบกระโปรงที่สั้นกว่ายูนิฟอร์มกำหนด  จะเป็นสิ่งล่อตาล่อใจของผู้ชายกำหนัดก่อให้เกิดคดีข่มขืนตามมาหรือป่าว  ก็เป็นได้  และหากบ้านเมืองเราเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มแบบฝรั่งคือใส่ชุดอิสระ  จะช่วยให้ผู้เรียนมีความสุขมากขึ้น ซึ่งถ้าหากแต่งกายปกปิด     ก็อาจจะมีส่วนช่วยให้ลดคดีข่มขืนลงมาได้  เพราะผู้ชายไม่เห็นส่วนสงวนที่ล่อตาล่อใจ  แต่ถ้าประกาศใช้กับเด็กไทย  นักศึกษาหลายคนจะจงใจใส่สั้น ๆ ตามเทรนด์ตามกระแสนิยมไปเรียนหรือป่าว จะนำเอาชุดที่ใส่เที่ยวกลางคืนใส่มาเรียนหรือป่าว จะให้เกียรติผู้สอนหรือเคารพในสถานที่หรือป่าว ซึ่งถ้าจะเอาแบบฝรั่งซะทั้งหมด  แน่นอนครับ คนไทยไม่ได้มีระเบียบวินัยในการกระทำเหมือนฝรั่งทุกคน บางคนคิดเป็นคิดได้    และมีความเข้าใจ  แต่คนที่คิดไม่เป็นแล้วคิดว่าสิ่งนี้คือสิทธิและเสรีภาพ จะคอนโทรลตัวเองได้หรือป่าว หรือเราไม่ควรจะใส่ใจ   โลกมันเป็นยังไงก็ปล่อยให้มันไปอย่างงั้น

         หลายคนเคยดูซีรี่ส์เรื่องนี้ หลายคนไม่เคยดู นี่คือสิ่งที่คนในยุค Gen  me  กำลังเป็นกัน ผู้เขียนได้นำเอาตอนนึงจากซีรี่ส์เรื่องฮอร์โมนมาให้คนที่ไม่เคยดู  ได้เห็นภาพความเปลียนแปลงของสิ่งที่เกิดขึ้น  มันเป็นกระจกสะท้อนที่เราต้องคิดร่วมกัน ไม่มีอะไรมากที่จะทิ้งท้ายครับ แต่เป็นการบ้านที่เราต้องคิดร่วมกัน การเปลี่ยนแปลงย่อมนำไปสู่สิ่งทีดีและไม่ดีได้ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่......คุณต้องคิดเป็น





                    ขอบคุณที่ติดตาม  คงได้อะไรดี ๆ กลับไปคิดร่วมกันนะค๊า..บ.....


 สนับสนุนโดย




มอเตอร์ไซค์




เรื่องเล่าก่อนเข้านอน











วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

Story ที่ 5 ยุค 3G : เมื่อผีเสื้อไม่รักปีก และอินทรีหยิ่งว่าบินสูง

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
ผีเสื้อไม่รักปีกและอินทรีหยิ่งว่าบินสูงเป็นยังไง  ลองมาติดตามกันดูนะครับ  เคยสังเกตกันมั้ยคับว่าทำไมหลายคนไม่มีความสุขกับชีวิต  หลายคนวิ่งตามคนอื่นแต่ก็ไม่เคยทัน  ทำไมคนเราเห็นช้างขี้จึงต้องขี้ตามช้าง  หลายคนไม่คิด  ไม่เคยค้นความต้องการของตัวเอง  แต่กลับวิ่งไล่ตามคนหมู่มากที่เขาเป็นกัน  อะไรคือสิ่งสูงสุดในบรรทัดฐานความเป็นคน  คืนนี้เราจะได้ฟังเรื่องราวของผีเสื้อและอินทรีกันนะครับ
ทุกสิ่งในธรรมชาติต่างมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน ทุกสิ่งถูกสร้างไว้ให้สวยงามอย่างที่มันเป็น  แต่ละสิ่งมีความโดดเด่นและความสำคัญแตกต่างกัน  แต่ทุกสิ่งนั้นมีความหมายในตัวของมันเอง  ผู้เขียนขอเปรียบผู้คนดั่งผีเสื้อและอินทรี  เลือกกันเอาเองนะครับว่าใครอยากเป็นผีเสื้อใครอยากเป็นอินทรี  จะสรุปตอนท้ายอีกครั้ง  ที่คนเราไม่ค่อยมีความสุขแล้วก็วุ่นวายกับการไขว่คว้ามันเป็นเพราะแบบนี้ครับ


ผีเสื้อ :  ฉันเป็นสัตว์ปีก  ที่มีปีกสวยงามที่สุด  ทุกหญ้ากว้างใหญ่   ดอกไม้นานาพันธ์  น้ำหวานแสนอร่อย  ฉันได้ยลได้สัมผัสมาหมด  ใคร ๆ ก็อยากถ่ายรูปฉัน  เพราะฉันทำให้ทุกสิ่งสวยงาม
อินทรี :  ฉันคือพญานก  วิหคแห่งท้องฟ้า  สายตาฉันแหลมคม  ฉันบินได้สูงกว่าใครในปฐพี  ปีกของฉันทำให้ฉันร่อนกลางอากาศได้ยาวนาน  ฉันบินไปทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินนี้


     คุณว่ามันดูสวยงามดีมั้ยครับ   ต่างคนก็ต่างมีดีของตัวเอง  แล้วถ้าวันหนึ่งทั้งผีเสื้อและอินทรีได้พบกันได้คุยถึงความภาคภูมิใจของตัวเองว่ามีความภูมิใจที่ได้เป็นผีเสื้อ  ภูมิใจที่ได้เป็นอินทรี  แต่แล้วเมื่อทั้งคู่ต่างคิดว่าตัวเองไม่ได้เจ๋งอีกต่อไป  แต่มีอีกฝ่ายหนึ่งมีดีกว่า  จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผีเสื้อและอินทรีต่างพูดและคิดในใจว่า


ผีเสื้อ :  อินทรีมีดีกว่าฉันทุกอย่าง  ปีกก็ใหญ่กว่า  บินก็สูงกว่า  ตัวก็ใหญ่  หาหนอนก็ง่ายกว่าฉัน  ตาโตอีกต่างหาก  ฉันไม่อยากเกิดเป็นผีเสื้อเลย  น่าอิจฉาอินทรีจริง ๆ ฉันอยากบินสูงเหมือนอินทรี อยากเป็นเหมือนอินทรีบ้าง  ฉันไม่มีดีอะไรเลยแค่ปีกฉันสวยแค่เนี้ยเองที่ฉันมีดี  คอยดูนะซักวันฉันจะต้องมีปีกเบ้อเริ่มเทิ่ม  บินให้สูงเท่าอินทรีให้ได้
อินทรี :  เฮ้อ….ฉันไม่น่าไปคุยกับผีเสื้อเลย  ปีกเขาก็สวยกว่าฉัน  เขาได้ดูดอกไม้เยอะกว่าฉันอีก  แถมได้กินน้ำหวานบ่อยกว่าฉันอีก  ทำไงดีน้า  ไอ้ปีกของฉันก็เบ้อเริ่มเทิ่มใหญ่เทอะทะ  ลายก็ไม่สวยเหมือนผีเสื้อ  แถมบินต่ำ  ๆ  ฉันก็ไม่ถนัดไม่คล่องตัวเหมือนผีเสื้ออีก  น่าอิจฉาผีเสื้อจริง ๆ เลย  ฉันอยากเกิดมาเป็นผีเสื้อบ้าง  จะทำยังไงดี
 
        
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
  หรืออีกกรณีหากอินทรีคิดว่าตนเองเพอร์เฟคที่สุดไม่มีใครเทียม  พูดจาทับถมให้ผีเสื้อเสียชาติเกิดกันไปเลย  หยิ่งผยองในความเป็นอินทรี  ทำให้ผีเสื้อน้อยใจที่ไม่สูงส่งเท่าอินทรี  จะเกิดอะไรขึ้น


     ผีเสื้อก็ยิ่งเครียดแค้น  อยากจะเป็นอินทรีให้ได้เพราะ  อินทรีมาดูถูกให้ผีเสื้อเสียชาติเกิด  ความน้อยใจของผีเสื้อยิ่งทำให้ผีเสื้อจะต้องเป็นอินทรีให้ได้  ความหยิ่งผยองของอินทรีก็ยิ่งทำให้อินทรีรู้สึก  ฉันคือสุดยอดไม่มีใครดีกว่าฉัน  ทำให้อินทรีทนงตนว่าไม่มีใครดีเท่าตนและคิดว่าข้าคือผู้ที่เหนือกว่าใคร  จนอินทรีต้องหงายเก๋งเมื่อเจอเครื่องบินที่มีปีกใหญ่กว่า และแข็งเแรงกว่า  บินได้สูงกว่า


      
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
  แล้วผีเสื้อหรืออินทรีดีกว่ากัน นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเราไม่มีความสุขในชีวิตเพราะ เราไม่พอใจกับความเป็นเราแต่อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆ  ทุกสิ่งอย่างจึงดูวุ่นวายผิดธรรมชาติที่มันควรจะเป็นไปหมด หลายคนไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น  ไม่ภูมิใจกับสามารถของตัวเองแต่กลับเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น ยกตัวอย่าง บางคนเกิดมาเพื่อเป็นนักกีฬาแต่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น เป็นนักกีฬาอยู่แต่กลับอยากจะไปเป็นนักดนตรี หรือคนเป็นหมอแต่อยากจะไปเป็นนักธุรกิจ หรือคนเป็นนักธุรกิจแต่อยากจะไปเป็นนักการเมือง  ในการเป็นอะไรก็ตามแต่  ทุกสิ่งมันเหมาะสมและลงตัวอยู่ในธรรมชาติของมัน  ขอเพียงเรามีความภูมิใจและรู้สึกมีเกียรติที่ได้เป็นสิ้งนั้นสิ่งนี้  แล้วเราจะพบแต่ความสุข  ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักกีฬาได้  จงภูมิใจที่มีสุขภาพที่แข็งแรงกว่าคนอื่น  ไม่ใช่ทุกคนจะเกิดมาเป็นหมอได้  ไม่ใช่ทุกคนจะเกิดมาเป็นนักธุรกิจได้  ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นทหารได้  ถ้าต่างคนต่างไม่รู้สึกพอใจกับสิ่งที่มี  แต่ให้ความสำคัญกับเงิน หรืออาชีพที่ทำเงินได้มากๆ  ใครๆ ก็อยากยืนในตำแหน่งของสาขาทีทำเงินได้ดีกันทั้งหมด  ถ้าอาชีพนักกีฬาทำเงินได้ดีที่สุด  ประเทศเราจะไม่มีหมอ  ไม่มีตำรวจ  ไม่มีพยาบาล ไม่มีคุณครู  สิ่งที่ผู้เขียน  เขียนมาเพื่อบอกเล่าในคืนนี้   เพราะอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านได้รับแง่คิด  หรือข้อคิด  และภูมิใจกับศักดิ์ศรีและหน้าที่ของตัวเอง  โดยไม่ต้องไปเปรียบกับใคร  ไม่อย่างงั้นผีเสื้อจะอยากเป็นอินทรี  และอินทรีจะอยากเป็นผีเสื้อ ผิดธรรมชาติและไร้ซึ่งความสุข  จงภูมิใจในหนทางที่คนบางคนไม่สามารถเดินอย่างคุณได้.Bye  Bye…...
     

สนับสนุนโดย


มอเตอร์ไซค์



เรื่องเล่าก่อนเข้านอน








Story ที่ 4 ยุค 3G : ผิดเป็นถูก

            สวัสดีค๊า.บ...พบกันก่อนนอนอีกเช่นเคย  เรื่องเล่าก่อนเข้านอนวันนี้  นำคลิปสัมภาษณ์ดี ๆ มาให้ผู้ติดตามได้ดูสัมภาษณ์นี้กัน  ผู้เขียนบล๊อกเห็นว่ามีประโยชน์ต่อสังคม  กับแนวคิดและสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำ  พี่โต  ซิลลี่ฟูลส์  เป็นไอดอลของผู้เขียนเอง  ทั้งการกระทำและคำพูด  และความหมายต่าง ๆในภาษาดนตรีที่ผู้เขียนชื่นชอบ  หลายแง่มุมจากการให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่คนเราทำในยุคอันเสื่อมทราม  เราเติบโตขึ้นและทำสิ่งผิด ๆมากมาย  เราทำสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูก  ลองฟังจากผู้ชายคนนี้ดูนะครับ  มีประโยชน์มาก ๆ  




        แม้ว่าไอดอลของผมจะห่างหายไปจากวงการแล้ว  ทุกวันนี้ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใด  ผมในฐานะแฟนพันธ์แท้ก็ยังคงติดตามและเห็นด้วยกับการกระทำ  ความคิดของผู้ชายคนนี้เสมอ  ไม่ได้หวังให้ผู้อ่านต้องชื่นชอบเหมือนผมนะค๊า..บ  5555  ลองติดตามกันดูมีประโยชน์จริง ๆ คับ

         ในบทสัมภาษณ์จะพูดถึง  วิธีคิด  วิธีการเลี้ยงดู  แนวคิดในการใช้ชีวิต  ซึ่งสังคมทุกวันนี้มักทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นเรื่องที่ถูกโดยไม่ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์อะไร  ผู้เขียนบล๊อกหวังว่าก่อนเข้านอน  ผู้ที่เข้ามาอ่าน  มาติดตามบล๊อกแห่งนี้เป็นประจำจะได้ประโยชน์และแง่คิดมากมายทีเดียว....ราตรีสวัสดิ์นะค๊า..บ



สนับสนุนโดย



มอเตอร์ไซค์



เรื่องเล่าก่อนเข้านอน











วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

Story ที่ 3 ยุค 3G : คำไทย ๆ แต่ใครมาทำ

     
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
   หวัดดีค๊า.บ  ...คืนนี้มาฟังเรื่องเล่าที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดกันบ้างดีกว่านะคับ  เราคงได้ยิน
ศัพท์แชทกันมามากมาย  บางคนรับได้  บางคนก็รับไม่ได้  กลัวว่าเป็นการไปส่งเสริมให้ภาษาไทยเราเสื่อมเสีย  อาจมีบางคนพูดในใจ  “บ่องตง  ไม่ชอบเรย  สาด...”   ถึงขั้นนี้เลยก็เป็นได้นะคับ  ผู้เขียนเองได้ติดตามดูรายการพวกนี้อยู่ตลอดว่าจะมีอะไรมาใหม่  มาทำไม  เขาใช้คำพวกนี้กันเพื่ออะไร  และอีกนานไหมกว่าเขาจะเลิกฮิตกัน  คำเหล่านี้ทำให้ภาษาไทยเราวิบัติหรือไม่  ก่อนที่เข้าสู่เรื่องภาษาขอเกริ่นซักนิดว่า  เคยสังเกตกันไหมครับว่า  คนไทยมีวัฒนธรรมอะไรแปลกอยู่เสมอ  อะไรที่เรามักบอกว่าเรารับไม่ได้  คนไทยเรากลับเป็นซะเอง  ยกตัวอย่างเรื่องเซ็กซ์  คนไทยบอกรับวัฒนธรรมยุโรปไม่ได้  มันผิดจารีตประเพณีไทย  มันไม่ดีไม่งาม  แต่การจัดอันดับ ranking  โอ้โห  อันดับดีซะด้วย  ไทยแลนด์ติดอันดับกับเขาด้วย   ยกตัวอย่างให้ฟังเฉย ๆนะคับ  ทีนี้มาเข้าเรื่องภาษากันบ้างดีกว่า

 ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนไม่ค่อยชอบภาษาที่เด็กรุ่นใหม่เขาใช้กัน  เพราะเขาอยากให้มันคงอยู่เอาไว้เช่นเดิม  คืนนี้เลยอยากจะขอยกตัวอย่าง  ศัพท์แชท  กับ  ศัพท์ที่ใช้กันบนเฟสบุ๊ค  ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรทำไมเขาถึงนิยมใช้กัน

บ่องตง (บอกตรงๆ)  มาจาก  twitter  โดย  สยฟพทสทภ (สุดยอดแฟนพันธ์แท้สุนทรภู่) คุยกับโดมเดอะสตาร์  แต่ที่จริงผู้ที่ใช้คนแรกคือคุณโจ้ บองโก้

 ฝุด ๆ (สุด ๆ ) จากเฟสบุ๊ค  ,   จุงเบย (จังเลย)  จากเฟสบุ๊ค

 ลาก่อย (ลาก่อน)  จาก Twitter  ความหมายของมันเลยกลายเป็นแบบ  ลาไปก่อน  ลากันไปแบบเซ็ง ๆ   ก่อย ๆ  

เมพจิง ๆ   (เทพจริง ๆ )  เป็นคำชมว่าเก่งสุดยอด

     
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
 หลายคนบอกวิบัติแล้วภาษาไทย  มีรายการและผู้ชำนาญทางด้านภาษาไทยท่านนึงเป็นอาจารย์ภาษาไทยที่ถือว่าเป็นกูรูที่หลายๆ คนได้ดูรายการของเขาแล้วชื่นชอบแน่นอน  มีการบอกทั้งการสะกดคำที่ถูกต้องทั้งภาษาไทยทั้งภาษาอังกฤษที่คนเราเผลอหรือนิยมใช้กันมาโดยไม่รู้ว่ามันผิดหรือมันถูก  แต่กูรูท่านนี้สามารถบอกและฟันธงได้ว่ามันผิดหรือถูกอย่างไร  มีที่มาอย่างไร  กูรูผู้รู้ท่านนี้คือครูทอม คำไทย  จากรายการแบไต๋ไอที  เขาบอกว่าที่จริงแล้วภาษาวิบัติไม่มีอยู่จริง  มันมีการเปลี่ยนแปลงทางภาษา  เนื่องจากภาษามันมีวิวัฒนาการในตัวของมันเอง  สิ่งที่เกิดขึ้นถ้ามันดี  เดี๋ยวจะมีคนใช้ต่อไปเรื่อย ๆ เอง  แต่ถ้ามันไม่ดีเขาก็จะเลิกใช้กันไปเอง  คำศัพท์ใหม่ ๆ บนโลกการสนทนาออนไลน์  เกิดขึ้นเป็นประจำเนื่องจากการพิมพ์ผิด  เลยกลายเป็นคำใหม่  เพราะความเร็วในการพิมพ์ทำให้เคาะตัวอักษร  ตัวสะกดผิด  จึงเป็นที่มาของคำใหม่ ๆเกิดขึ้นทุกวัน  บางคำเป็นคำพ้องเสียง  หรือพ้องสำเนียงเพื่อเป็นคำใหม่ที่น่าสนใจ  น่าติดตามมากขึ้น

ถ้าเป็นสมัยก่อนยกตัวอย่างเช่นคำว่า  อย่างไร  กลายเป็น   ยังไง  หรือ  มีอะไรหรือป่าว       ก็ถูกหดเหลือแค่  มีไร   ,  อย่างนี้  ก็เป็น  หยั่งงี้   เป็นต้น

ส่วนคำใหม่ ๆ ที่กำลังมาแรง

ช่ะ  =  มาจาก  ใช่อ่ะ > ใช่ป่ะ > ใช่ป่าว > ใช่รึป่าว > ใช่หรือเปล่า

งุ้งงิ้ง  กับ  มุ้งมิ้ง  ความหมายคือ  สดใสน่ารัก  กระหนุงกระหนิง 

ตัลหลอด  ตลอด     อัลไล  อะไร  ,ทำอะไร 

นะครัช นะครับ (เกิดจากการพิมพ์ผิด) ช ช้าง  อยู่ใกล้ บ  ใบไม้

หรือสำนวนใหม่ ๆ  อย่าง 

ทำปากจู๋   หมายถึง  ตกลง   โอเค   (มาจากซีรีส์วัยรุ่นเรื่องดัง ฮอร์โมน  ฉากที่สไปร์ทกับไผ่อยู่ในห้องสมุด  ซึ่งห้ามใช้เสียง  สไปร์ทชวนไผ่ไปดูหนัง  ถ้าไผ่ไปด้วย  หรือตอบตกลงให้ทำปากจู๋  แต่ไม่ต้องออกเสียง) 

ก็ไม่รู้สินะ จากเจ้าพ่อคำฮิต  อุดม แต้พานิช  ในเดี่ยว 10

  
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
      ส่วนถ้าใครอยากรู้คำตอบว่าภาษาไทยจะวิบัติหรือไม่  พบคำตอบด้วยตัวเอง  หรือดูรายการย้อนหลังได้ใน
รายการแบไต๋ไอที  ช่วง   ครูทอม  คำไทย  ผู้เขียนไม่ได้มาโปรโมทให้นะคับ  แต่แนะนำว่าดีจริง ๆ  ทั้งความรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ  การแฮ๊คที่มีประโยชน์    นักแฮ๊คที่เป็นคนดี  เขาจะเจาะวิธีการแฮ๊คแล้วนำไปบอก  ผู้ผลิตซอฟแวร์ว่าต้องแก้ไขยังไง  เพราะถ้าเจอนักแฮ๊คสายดำแล้วโลกเราจะมีโจรกรรมมากมายเกิดขึ้นเต็มไปหมด มีการแฉวิธีการแฮ๊คต่างๆ นา ๆ ให้เราดู แล้วก็ยังมีข่าวคราวของวงการอุปกรณ์ไอทีแนะนำกันอยู่ตลอด  ลองติดตามกันดูนะครับ  ผู้เขียนยกนิ้วให้  กดไลค์ให้  100  ทีเลย  5555  เยี่ยมจริง ๆ

   
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
มีคำคมทิ้งท้ายจากคุณหนุ่ยพิธีกรรายการ ให้แง่คิดที่ดีมาก
   เขาบอกว่า   อินเตอร์เน็ตลงทุนปีละกว่าหมื่นล้าน  แต่คนส่วนมากใช้มันเป็นฝาห้องน้ำ  ลองคิดดูดี ๆนะคับ  ผมเองก็เคยเป็น  ผู้อ่านทุกคนก็คงเป็น  เราใช้อินเตอร์เน็ตเป็นที่ระบาย  เหมือนเวลาเราเข้าห้องน้ำแล้วเจอใครมาขีดเขียนอะไรก็ไม่รู้เต็มฝาไปหมด  เราระบายอารมณ์และความรู้สึกบนอินเตอร์เน็ตให้เป็นฝาห้องน้ำกันซะส่วนใหญ่  ลองกลับไปคิดดูว่าสิ่งที่ลงทุนให้กับเรามีค่าถึงกว่าหมื่นล้าน  เรากลับนำมันมาทำเป็นเพียงแค่ฝาห้องน้ำแค่นั้นหรือ....ราตรีสวัสดิ์  พบกัน  story  ต่อไปค๊า.บ

 


สนับสนุนโดย

มอเตอร์ไซค์

 

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

Story ที่ 2 ยุค 3G : บางสิ่งต้องขัดคอ บางสิ่งต้อง เออ-ออ ห่อหมก

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
        คุณผู้อ่านเคยเป็นกันบ้างมั้ยคับ  เวลาเราอยู่รวมกับคนอื่นแล้วบางทีมีสิ่งที่คิดเห็นไม่ตรงกัน  บางครั้งการดำเนินชีวิตของเราก็ต้องขัดคอคนอื่นบ้าง  เออ-ออ ห่อหมก ตามคนอื่นไปบ้าง  เพื่อเราจะอยู่อย่างมีความสุข  ถ้าขัดคอผู้อื่นไปหมดซะทุกอย่างเราก็คงจะหาหมู่มิตรไม่ได้  หรือถ้าใครทำอะไรก็ เออ-ออ ห่อหมกไปกับเขาทุกอย่าง  เราเองก็จะดูเป็นคนไม่มีความคิดหรือจุดยืน  แท้ที่จริงใคร ๆ ก็อยากให้คนรอบข้างมาเข้าข้างตัวเองกับสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราทำทุกเรื่อง  ไม่อยากให้มีใครมาเบรกเรา  ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใด  ผู้เขียนเองก็มีอีโก้สูงไม่แพ้คุณผู้อ่านเช่นเดียวกัน  แต่ก็ถูกเบรกอยู่เป็นประจำ  บางทีการถูกเบรกบ้างก็ดีเหมือนกันนะครับ  เพราะบางทีเราอาจจะมีมุมมองที่เรามองแค่มุมเดียว   เราเองไม่อยากให้ใครมาขัดคอ  แต่ถ้าหากเราลองรับฟังคนที่เบรกเราแล้วกลับมานั่งคิด  บางทีมันก็ให้ประโยชน์กับตัวเราเหมือนกันนะครับ  เพื่อจะนำมาปรับปรุงแก้ไขหรือบางทีมีสิ่งที่เรานึกไม่ถึงว่า  จริงด้วยเราลืมมองมุมนี้ไปเลย  ถ้าไม่มีคนมาเบรกเรา  เราคงพลาด  แต่บางคนก็ไม่รับฟังสิ่งที่คนอื่นเบรกมาเหมือนกันนะครับ  จะมองแต่ความเห็นตนเองเป็นที่ตั้ง  จนไม่มีใครอยากเบรก  ไม่ฟังใครเลย  ต่อให้ผู้ที่เบรกหวังดี  อยากให้เรามองในอีกมุมก็คงจะทำอะไรไม่ได้  คนที่ชอบเบรกคนอื่นแต่คนอื่นมาเบรกไม่ได้  เรารู้สึกพูดยากใช่มั้ยคับ  แล้วจะทำอย่างไร...   
เออ – ออ  ห่อหมกยังไงล่ะคับ  5555  เขาจะได้รับผลในสิ่งที่ต้องเจอด้วยตัวเอง  ถ้าเราไปเบรกเขาอาจไม่ใช่ผลดีกับตัวเขาก็ได้  แต่ถ้าเราไม่เบรกก็อาจส่งผลร้ายกับเขาก็ได้  เพราะฉะนั้นต้องรู้จักขัดคอ  รู้จัก เออ – ออ ห่อหมก  กันให้ถูกที่ถูกจังหวะเหมือนกันนะคับ

         
เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
คนแบบไหนกันที่เราไปขัดคอเขาไม่ได้  เราต้อง เออ – ออ ห่อหมกเท่านั้นเขาถึงจะพอใจเรา  คนที่ชอบคิดแบบนี้ไงคับ  “แกเรียนอะไรมา  แล้วชั้นเรียนอะไรมา” , “แกเรียนจบระดับไหน  จะมาสอนฉัน”, “ก็ชั้นมีตังค์อ่ะ  ใครจะทำไม” , “ประสบการณ์อย่างเอ็งหน่ะเหรอ  ข้าหน่ะอายุเท่าไหร่แล้ว”  ตัวอย่างเฉยๆ นะคับ  เชื่อว่าเราทุกคนเคยเจอประโยคแบบนี้กันมาเยอะแยะมากมาย  ส่วนมากจะเป็นคนใกล้ตัวเราจนเราขัดพวกเค้าไม่ลงจริง ๆ ใช่มั้ยคับ  ถ้าในทางของคนที่ทำมาค้าขายทำธุรกิจ  การ เออ – ออ ห่อหมก  ตามคนอื่นจะส่งผลดีต่อการค้ามากที่สุด  การเป็นพักเป็นพวกหรือเชียร์ในสิ่งที่คนอื่นทำ  ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตัวเราเอง  นอกจากจะเป็นมารยาทที่ดีมันยังส่งผลให้ปิดการขายได้ง่ายดายด้วย  เชื่อมั้ยล่ะคับ  อะไรที่ต้องทำให้คนอื่นพอใจก่อนจะส่งผลดีต่อเราเสมอ  แต่อะไรที่ต้องพอใจตัวเราเองก่อน  มักส่งผลที่ตรงกันข้ามเสมอ  ลองสังเกตดูสิคับ  ดังนั้นแล้วต้องทำให้ถูกที่ถูกเวลา  ขัดคอแบบไหน  เวลาไหน  ตอนไหน  ถึงจะดี  ควรเลือกสิ่งที่ต้องขัดคอคนอื่นบ้าง ถ้าเรามองดูแล้วมันไม่ส่งผลดีกับตัวเขา และ เออ – ออ ห่อหมกไปบ้าง  เพื่อจะมีบางสิ่งที่ส่งผลดีกับตัวเรา 
พบกับ  Story  ก่อนนอน  ตอนต่อไปค๊า..บ



สนับสนุนโดย


มอไซค์



เรื่องเล่าก่อนเข้านอน







          

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

story ที่ 1 ยุค 3 G : คนหลายกิ๊ก

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
  สวัสดีค๊า.บ  ก็ห่างหายกันไปนานสำหรับเรื่องเล่าก่อนเข้านอน  ผู้เขียนก็ยุ่งมากไม่มีเวลาที่จะได้เขียนเรื่องเล่าที่อยากเขียนเลย  กลับมาคราวนี้เป็นงานเขียนที่ต้องอัพตัวเองขึ้นมาใหม่ ดีใจที่ได้กลับมาเขียนผลงานให้อ่านเล่นก่อนเข้านอนอีกครั้ง....
       หลังจากนี้ไปจะเป็นการเขียนเรื่องเล่าที่ปรับปรุงใหม่มีการนำเอาระบบ 3G อุปทาน !""" มาใช้  อุปทานไว้ก่อน  มาพร้อมกับภาพประกอบสไตล์ใหม่   มาว่ากันเลย  ค่ำคืนนี้อยากจะพูดถึงว่าทำไมคนเราถึงได้มีหลายกิ๊ก  คนเรามีหน่วยความจุของกิ๊กได้เยอะมากไม่มีที่สิ้นสุด
        มันจะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรล่ะคับ  เดี๋ยวนี้สมัยนี้คนเรามีช่องทางให้เจอะเจอผู้คนได้ตั้งมากมาย  คำพูดที่ว่า  "คิดถึงนะ"  คำสั้น ๆ แค่เนี้ย  คนเราก็ไม่ได้เลือกที่บอกกับใครที่เป็นคนพิเศษแค่คนเดียว  แต่สมัยใหม่นี้  คุณพูดกับใครก็ได้  คุณสามารถแยกเซิร์ฟเวอร์  ออกจากกันได้สบาย ๆ เลย  ในเฟสบุ๊คจีบไว้ 4 คน  ใน Hi5 6 คน  ใน Tagged 3 คน  ใน Line  2 คน  ยังมีอีก   ใน WhatsApp  , Skype , SKOUT  เวปเดทติ้งต่าง ๆ เกิดขึ้นมามากมาย
         ในคนเรา 1 คน  อย่างน้อยที่สุดก็มีกันคนละ  3  ช่องทางในการพบเจอกันของหนุ่มสาว  แล้วจะไม่ให้พูดได้อย่างไรล่ะครับว่าคนเรามีหลายกิ๊ก  เรื่องแบบนี้คนโสดรู้ดีคับ  ส่วนในรายของคนที่มีคู่หรือแต่งงานมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝากันแล้ว  ก็ยังมีเรื่องแบบนี้เลยครับ  ในโลกปัจจุบันมีบางคนที่กำลังคบกับใครอยู่แต่ยังไม่รู้เลยครับว่าแท้จริงแล้วตนเองเป็นคนที่มาทีหลัง  พอมารู้หรือจับได้ว่าคนที่เราคุยอยู่ด้วยเขามีใครเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว  ก็เจ็บอ่ะสิครับที่นี้

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน
          ต้องบอกว่ามันเป็นยุคของการคบหากันด้วยสื่อเทคโนโลยีจริง ๆ  แล้วสมัยนี้คนเราไม่ค่อยที่จะแคร์อะไรกันเท่าไหร่  ตราบใดที่ยังไม่ได้แต่งงานกันมันเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ  คุณไม่สามารถไว้ใจในคำพูดของใครได้  หรือเชื่อใจในใครได้  แม้จะดูน่าเชื่อมากมายแค่ไหนก็ตาม  มันมีปัจจัยที่ส่งผลกับคุณเกิดขึ้นตลอดเวลา  แม้จะปักหลักปักใจกับใครแล้วก็ตาม
          เทคโนโลยีสมัยใหม่มีประโยชน์กับตัวเราจริง ๆ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มันร้ายกับตัวเรา  หากเราควบคุมมันไม่ได้  มันจะเป็นช่องทางที่ทำให้เราลุ่มหลง  มันมีสิ่งล่อเย้ายวนใจที่เราปฏิเสธมันไม่ได้  ถ้าคิดจะคุยกับใคร  คบกับใคร  โดยผ่านเจ้าสื่อหรืออุปกรณ์สมัยใหม่ที่เราใช้กัน  ผู้เขียนไม่มีคำแนะนำในการใช้อะไร  ก็คงได้แต่บอกไปว่า  ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณ  ถ้าคุณไม่อยากเสียอกเสียใจเพราะใคร  ในโลกไซเบอร์แล้ว  คุณต้องเจ้าชู้  คุณต้องเป็นคนที่มีหลายกิ๊ก  ไม่งั้นคุณจะเสียเปรียบ  แต่โลกความจริงทุกสิ่งที่เป็นคุณก็คือคุณอยู่วันยังค่ำ  ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า  คนหนึ่งคนที่คุยกับคุณและบอกคุณว่าเขาคุยกับคุณแค่คนเดียว  เขาก็พูดประโยคนั้นกับทุก ๆ คน

เรื่องเล่าก่อนเข้านอน

   โอ้...แม่เจ้า...มันอยู่ยากจิงเนาะโลกใบนี้

        อุทธาหรณ์ของคนที่มีหลายกิ๊ก  ก็อยากให้ลองนึกถึงเรื่องที่เป็นข่าวคดีฆาตกรรม  การฆ่ากันตายเพราะแรงหึงหวง  สาดน้ำกรด ก็มีให้เห็นกันอยู่มากมายทุกวันนี้  หรือมันเป็นเพราะปัญหาเหล่านี้กันแน่  ที่รัฐบาลจะมีการให้เก็บภาษีคนโสด  เพราะอยากให้คนทุกคนมีคู่กันชัดเจนจะได้ไม่เกิดปัญหาครอบครัว  5555  แซวเล่นนะค๊า.บ

       แต่อีกประเด็นที่เขาไม่อยากเก็บภาษีคนมีคู่  เพราะคนมีคู่แล้วมักมีรายจ่ายเยอะ  ส่วนคนโสดใช้เงินกันเพลินอุรา   หลายคนก็ขำ  หลายคนก็วิพากวิจารณ์กันต่าง ๆ นาๆ บนเฟสบุ๊ค  สำหรับผู้เขียนเอง  สิ่งใดเป็นสิ่งที่มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันบนสังคม  ก็มิควรให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มาบัญญัติชีวิตของเรานะค๊า.บ    อย่ามีกิ๊กกันเยอะนะคับ  เด๋วคนโสดเขาหาคู่ไม่ได้  เขาจะมีภาษีเป็นภาระ... 5555   พบกับ  story  ก่อนนอนตอนต่อไปค๊า..บ




สนับสนุนโดย


มอเตอร์ไซค์




เรื่องเล่าก่อนเข้านอน